พายุ ภัยพิบัติที่มากับฤดูร้อนและฤดูฝนของไทย
ภัย พิบัติจากพายุ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นทางตอนใต้ของประเทศเนื่องจากอยู่ใกล้ทะเล พายุที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับประเทศไทยได้ เท่าที่เคยผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็น หย่อมความกดอากาศต่ำ พายุดีเปรสชั่น และเสียหายมากที่สุดคือ พายุใต้ฝุ่น
ลักษณะการเกิดพายุ
- จะมีการก่อตัวในทะเล หรือมหาสมุทร
- เกิดในช่วง ละติจูด ที่ 8-15 องศา เหนือ-ใต้
- เกิดทางตะวันตกของมหาสมุทรเป็นส่วนใหญ่
- จะเคลื่อนที่ จากตะวันออกไป ตะวันตก ตามอิทธิพลของแรงลมสินค้า
องค์ประกอบเสริมที่ทำให้พายุเกิด
- อุณหภูมิของอากาศที่ปกคลุมเหนือทะเลและมหาสมุทร ต้องสูงประมาณ 80°F (27 °C)
- อุณหภูมิของน้ำทะเล
- อิทธิพลความกดอากาศสูง
- ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่าน
- ในประเทศไทยส่วนมากจะเกิดในช่วง ปลายฤดูร้อน และปลายฤดูฝน (ในช่วง สิงหาคม-พฤศจิกายน)
การที่อุณหภูมิเหนือผิวน้ำทะเลสูง และ อุณหภูมิของน้ำทะเลสูง จะทำให้อากาศอับชื้นอยู่ในระดับน้ำ ก่อให้เกิดความไม่เสถียรภาพของอากาศทำให้ง่ายต่อการเกิดพายุ และจากการที่มีความร้อนแฝงจากการระเหย และถูกคายออก เมื่อมีการควบแน่นเป็นจำนวนมาก พลังงานความร้อนแฝง รวมกับความชื้น จำนวนมากนี้เป็นตัวการที่ก่อให้เกิด Typical cyclone (พายุหมุนเขตร้อน) แรงลมจะพัดเข้าหาศูนย์กลางความกดอากาศต่ำ อากาศจะถูกบีบตัวเข้าหากันและยกตัวสูงขึ้น โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกา (เนื่องจากเกิดในซีกโลกเหนือ) ความรุนแรงที่จะมีมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ ความชันของความกดอากาศ ยิ่งชันมากก็จะยิ่งมีความรุนแรงของลมมากขึ้น
ในประเทศไทยมีการเผชิญหน้ากับพายุที่มีกำลังแรงจาก มหาสมุทรโดยตรงน้อยมากเนื่องจาก ที่ตั้งของประเทศมีที่กำบังจากประเทศอื่น แต่จะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ถ้าพายุลูกนั้นก่อตัวขึ้นในทะเลอ่าวไทย ซึ่งความรุนแรงของพายุอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติจากฝนตกหนัก, น้ำท่วม, น้ำบ่าไหลหลาก, แผ่นดินถล่ม, หรือความรุนแรงจากคลื่นสูงและคลื่นซัดฝั่งได้ พื้นที่ที่จะประสบกับภัยตัวนี้ส่วนใหญ่อยู่ทางตอนใต้ของประเทศไทย และจะเกิดขึ้นพร้อมๆกับ พายุที่มีกำลังลมค่อนข้างแรง
ตัวอย่างการเกิดพายุในประเทศไทย
พายุที่พัดผ่านประเทศไทยที่ก่อให้เกิดความเสียหาย แก่พื้นที่มากที่สุดอันหนึ่ง คือ พายุ ใต้ฝุ่นเกย์ ที่พัดผ่านเข้าทาง จ. ชุมพร เมื่อ เดือน พฤศจิกายน ปี พ.ศ. 2532 ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายค่อนข้างรุนแรง
พายุได้มีการก่อตัวขึ้นเมื่อ 07.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค. 2532 จาก หย่อมความกดอากาศต่ำ กำลังแรง ในทะเลจีนใต้ตอนล่าง ห่างจากจังหวัด นราธิวาส ไปทางทิศตะวันออกค่อนข้างไปทางใต้ประมาณ 300 กม. และในเวลาต่อมา ได้เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ กระทั่งเวลา 7.00 น. ของวันที่ 1 พ.ย. 2532 ก็ได้เพิ่มความแรงขึ้นกลายเป็นพายุ ดีเปรสชั่นขณะอยู่ห่างจากจังหวัดสงขลา ไปทางทิศตะวันออก ประมาณ 250 กม. พายุดีเปรสชั่นได้เคลื่อนตัวอย่างช้าไปตามแนวตะวันตกเฉียงเหนือ และทวีความรุนแรงขึ้นเป็น พายุโซนร้อน “เกย์” เมื่อเวลา16.00น. ของวันที่ 2 พ.ย. 2532 มีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของจังหวัด พัทลุง ประมาณ 200 กม. มีความเร็วรอบศูนย์กลางประมาณ 65 กม./ ชม. (35 นอต) พายุโซนร้อน “เกย์” ได้เปลี่ยนทิศทางไปในแนวทิศเหนือ และเปลี่ยนไปในแนวทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเวลาต่อมา เนื่องจากอิทธิพลการแผ่ลิ่มลงมาของความกดอากาศสูงกำลังแรง ทำให้พายุไม่สามารถเคลื่อนตัวไปทางเหนือได้ และเปลี่ยนทิศทางในที่สุด
เมื่อเวลา 16.00น. ในวันที่ 3 พ.ย. 2532 พายุได้ทวีความรุนแรงขึ้นเป็นพายุใต้ฝุ่น“เกย์” โดยมีศูนย์กลางอยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะสมุย 120 กม. มีความเร็วรอบจุดศูนย์กลางประมาณ 120กม./ชม. (65 นอต) และเคลื่อนตัวในแนวตะวันตกเฉียงเหนือ ต่อมาในตอนเช้า ของวันที่ 4 พ.ย. 2532 พายุได้ขึ้นฝั่งที่อำเภอ ประทิว จังหวัด ชุมพร ในเวลา 10.30 น. มีศูนย์กลางอยู่ที่ อำเภอ ประทิว จังหวัด ชุมพร และมีความเร็วสูงสุดใกล้จุดศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ชม. พายุนี้เมื่อขึ้นฝั่งได้อ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อน และเคลื่อนที่ผ่านประเทศไทยไปยังประเทศพม่าในแนวทิศตะวันตกและลงฝั่งทะเลอันดามัน ในวันที่ 4 พ.ย. 2532 เวลา 16.00 น.
จากเส้นทางการเคลื่อนตัวของพายุ ก่อให้เกิดความเสียหายอย่างมาก ทั้งจากแรงลม และปริมาณน้ำฝน มีบ้านเรือนถูกลมพัดพัง เรือประมงเสียหายและอับปางจากแรงลมพายุทำให้เกิดคลื่นสูงและรุนแรง พื้นที่เพาะปลูกถูกน้ำท่วมเสียหาย ถือว่าเป็นภัยพิบัติที่มีความรุนแรงอันหนึ่งของประเทศไทย