๒. แผนผังหรือแผนผังบริเวณ (Layout Plan) มีลักษณะคล้ายแผนที่ลายเส้น จะใช้สัญลักษณ์ รูปภาพ ลายเส้น แทนปรากฏการณ์บนพื้นที่เหมือนกัน แต่จะเป็นแบบที่เขียนย่อสัดส่วน ว่าอยู่ในตำแหน่งใด แผนผังบริเวณมักแสดงปรากฏการณ์ในพื้นที่ที่ไม่กว้างขวางมากโดยอาจจะมีการย่อ-ขยายสัดส่วนเพื่อเน้นหรือลดปรากฏการณ์บนพื้นที่ให้สื่อสารได้ชัดเจน เช่น แผนผังประกอบการโฆษณาขายที่ตั้งหมู่บ้าน
3. หุ่นจำลองภูมิประเทศ (Topographic Model) เป็นการย่อส่วนภูมิประเทศที่ในแนวตั้งและแนวนอนแสดงให้เห็นเป็น 3 มิติ สามารถจับต้องปรับทิศทางได้ทำให้สามารถสื่อสารได้ใกล้เคียงภูมิประเทศจริงที่สุด ทั้งนี้ยังสามารถแสดงปรากฏการณ์อื่น ๆ ทั้งที่เป็น 2 มิติหรือ 3 มิติ ซ้อนทับลงบนหุ่นจำลองภูมิประเทศได้อีกด้วย
4. แผนที่ภาพถ่าย (Photo Map) เป็นแผนที่ที่นำภาพถ่ายมาเป็นพื้นหลัก โดยภาพถ่ายนั้นๆ จะถ่ายจากที่สูงลงมาบนพื้นโลก อาจจะถ่ายทางอากาศหรืออวกาศลงมา ทำให้เห็นภาพปรากฏการณ์บนพื้นโลก อย่างไรก็ตามเนื่องจากถ่ายจากที่สูง ภาพที่ได้อาจจะมีรายละเอียดใหญ่-เล็ก ยุ่งยากซับซ้อนต่อการเข้าใจ ประกอบกับมีแสง-เงาของดวงอาทิตย์ทอดบังปรากฏการณ์ต่างๆด้วย บางครั้งจึงต้องมีการแปลความหมายแล้วใช้ลายเส้นหรือสัญลักษณ์แสดงปรากฏการณ์ประกอบบนภาพ อีกทั้งด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยในปัจจุบัน การหลีกเลี่ยงการบดบังของแสง-เงา การถ่ายภาพปรากฏการณ์ระยะไกล การถ่ายภาพด้วยเทคนิคการสะท้อนของช่วงคลื่นต่างๆ ทำให้มีการแปลและวิเคราะห์ความหมายของปรากฏการณ์ในภาพถ่ายทางอากาศที่ซับซ้อนขึ้น ดังนั้น แผนที่ภาพถ่ายจึงสามารถแสดงปรากฏการณ์บนพื้นโลกได้ซับซ้อนและหลากหลายยิ่งขึ้น
จะเห็นว่าทั้ง ภาษาภาพและภาษาแผนที่นับได้ว่าเป็นภาษาสากล...เป็นภาษาที่สามารถถ่ายทอดและสื่อสารปรากฏการณ์บนพื้นพิภพให้มนุษย์สามารถเข้าใจได้ชัดเจนตรงกัน การเรียนรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ด้าน Cartographic Map ทั้งเพื่อสร้างและใช้แผนที่ จึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ควรส่งเสริมให้นักเรียน นักศึกษา นักวิชาการและคนทั่วไปได้รับรู้เพื่อนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการพัฒนาประเทศต่อไป